Apple Intelligence คือระบบอัจฉริยะส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยคุณเขียน ถ่ายทอดความเป็นตัวเอง และทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยได้สบายๆและยังมีการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่เหนือชั้น จึงอุ่นใจได้ว่าจะไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลของคุณได้แม้แต่ Apple เอง
การประมวลผลบนอุปกรณ์ ช่วยให้ Apple Intelligence สามารถรับรู้ข้อมูลของคุณได้โดยที่ไม่ต้องเก็บข้อมูลของคุณเลย
การประมวลผลบนอุปกรณ์
หัวใจสำคัญของ Apple Intelligence คือการประมวลผลบนอุปกรณ์ ซึ่งทำให้ Apple Intelligence สามารถทำตามคำขอหลายๆ เรื่องของคุณได้โดยไม่ต้องออกจากอุปกรณ์ของคุณเลย
การประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว ขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวของอุปกรณ์ Apple เพื่อคำขอที่ซับซ้อนมากขึ้น
การประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว
คำขอบางอย่างจำเป็นต้องใช้พลังการประมวลผลมากกว่าสิ่งที่ใส่อยู่ในกระเป๋าคุณสซึ่งำหรับคำขอที่ซับซ้อนมากขึ้นนี้ Apple Intelligence สามารถใช้ประโยชน์จากการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว และขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวของอุปกรณ์ Apple ให้ครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์Apple Silicon ด้วย
พาสคีย์ทำให้รหัสผ่านไม่จำเป็นอีกต่อไปด้วยการใช้รหัสดิจิทัลแบบเฉพาะที่จะใช้งานได้บนเว็บไซต์หรือแอปที่รหัสดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ด้วยเท่านั้น คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลบนเว็บไซต์หรือการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง นอกจากนี้พาสคีย์ยังซิงค์ตรงกันระหว่างอุปกรณ์ Apple ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย เพียงใช้ Touch ID หรือ Face ID เพื่อยืนยันตัวตนเท่านี้ก็เรียบร้อย
ล็อคอัลบั้ม ที่ซ่อนอยู่
เก็บรูปภาพ ที่ซ่อนและ ที่ลบล่าสุด ให้เป็นส่วนตัว
ล็อคอัลบั้มที่ซ่อนอยู่
อัลบั้มที่ซ่อนอยู่และที่ลบล่าสุดของคุณในแอปรูปภาพจะถูกล็อคไว้เป็นค่าเริ่มต้น และสามารถปลดล็อคได้โดยใช้วิธีการยืนยันตัวตนของอุปกรณ์ไม่ว่าจะด้วย Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่านของคุณ
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมลจะซ่อนที่อยู่ IP ของคุณ ดังนั้นผู้ส่งจึงไม่สามารถนำที่อยู่ IP นั้นไปเชื่อมโยงกับกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ ของคุณหรือระบุตำแหน่งของคุณได้ ทั้งยังป้องกันไม่ให้ผู้ส่งเห็นว่าคุณเปิดอ่านอีเมลแล้วหรือยัง หรืออ่านเมื่อไหร่
ข้อมูลทั้งหมดของคุณจะได้รับการเข้ารหัสและสามารถเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อใช้รหัสผ่าน, Touch ID หรือ Face ID ของคุณเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่ว่าคุณจะใช้แอปสุขภาพอย่างไร คุณก็ควบคุมข้อมูลของคุณได้เสมอ
Siri เรียนรู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร
Siri
Siri นั้นได้รับการออกแบบมาตั้งแต่แรกเริ่มให้เรียนรู้ความชอบส่วนตัวของคุณโดยไม่เปิดเผยตัวตนของคุณ ไม่ว่ากับทั้ง Apple หรือกับใคร โดยคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เพื่อใช้งาน Siri ซึ่งเหล่าเสียงคำขอของคุณนั้นจะถูกประมวลบนอุปกรณ์ทั้งหมด โดยอาศัยขุมพลังของ Apple Neural Engine
ส่วนในกรณีที่ Apple ต้องประมวลผลหรือจัดเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ของเรา ข้อมูลนั้นก็จะถูกเชื่อมโยงกับตัวบ่งชี้แบบสุ่ม ซึ่งเป็นตัวอักษรและตัวเลขเรียงต่อกันยาวๆ อีกทั้งข้อมูลดังกล่าวก็จะนำไปใช้เพื่อปรับปรุง Siri เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการเปิดเผยหรือจำหน่ายให้ใครทั้งนั้น ซึ่ง Apple เองก็จะไม่เก็บเสียงคำขอของคุณไว้ เว้นแต่คุณจะเลือกแชร์เสียงนั้นกับเราเพื่อใช้ในการปรับปรุง Siri
App Store จะแสดงให้เห็นว่าจะมีการใช้ข้อมูลของคุณอย่างไร
App Store
แอปทุกแอปทั้งกว่า 1.8 ล้านแอปบน App Store นั้นจะต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด และต้องรายงานว่าแอปนั้นใช้ข้อมูลของคุณอย่างไร นอกจากนี้แอปทั้งหมดยังต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ Apple อีกด้วย