apple stories
ศิลปินออทิสติกที่ Exceptional Minds เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นอาชีพ
สถานศึกษาที่ไม่แสวงหากำไรในลอสแอนเจลิสกำลังเตรียมความพร้อมให้กับนักแอนิเมชั่น, ศิลปิน VFX, และนักออกแบบโมชั่นกราฟิกรุ่นใหม่โดยได้รับการสนับสนุนจาก Apple
ณ เมือง Burbank รัฐแคลิฟอร์เนีย Angela Ibarra เติบโตมาโดยรู้อยู่เสมอว่าเธออยากเป็นศิลปิน
"ในหัวของฉันมีความคิดสร้างสรรค์เจ๋งๆ ผุดขึ้นมามากมายไม่รู้จบ" Ibarra อธิบาย "ฉันคิดว่า 'คงต้องเขียนลงกระดาษเพื่อให้มันเป็นรูปเป็นร่าง' ฉันเลยวาดนั่นวาดนี่แล้วมันก็กลายเป็นสิ่งที่อยากให้เป็น"
Ibarra เปิดผลงานชิ้นหนึ่งให้ดู เป็นภาพวาดบุคคลในยุคเรเนซองส์ที่นำมาตีความด้วยลายเส้นแบบอะนิเมะ เธอใช้ Procreate ร่วมกับ Apple Pencil บน iPad เพื่อฝึกฝนทักษะการวาดภาพมาหลายปีโดยมีความฝันว่าสักวันหนึ่ง เธอจะได้ทำงานเป็นนักแอนิเมชั่นหรือศิลปินวิชวลเอฟเฟ็กต์ในฮอลลีวูด
ปัจจุบัน Ibarra เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 ที่ Exceptional Minds ซึ่งเป็นสถานศึกษาและสตูดิโอแบบไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 ในลอสแอนเจลิส โดยที่ Ibarra และเพื่อนๆ ของเธอมักใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานในห้องแล็บ เรียนวิชาวาดภาพบุคคล และเรียนรู้วิธีเรนเดอร์โมชั่นกราฟิก ซึ่งส่วนหนึ่งใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จัดหาผ่านโครงการเงินสนับสนุนเพื่อชุมชนของ Apple ทำให้สถาบันแห่งนี้สามารถฝึกสอนศิลปินที่มีความหลากหลายทางระบบประสาทให้พร้อมสำหรับการเข้าทำงานในวงการบันเทิงโดยอาศัยการผสมผสานระหว่างการฝึกอบรมทางเทคนิค การลงมือปฏิบัติจริง และการวางแผนเส้นทางในสายอาชีพ
จากซ้ายไปขวา: นักแอนิเมชั่นไฟแรงอย่าง Angela Ibarra ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จาก Exceptional Minds ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนอะนิเมะ และการได้ไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในลอสแอนเจลิสอยู่เป็นประจำ เธอมักใช้ Adobe Fresco บน iPad เพราะถูกใจที่มีแปรงให้เธอได้ลองใช้หลายแบบ
จากบนลงล่าง: นักแอนิเมชั่นไฟแรงอย่าง Angela Ibarra ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จาก Exceptional Minds ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนอะนิเมะ และการได้ไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในลอสแอนเจลิสอยู่เป็นประจำ เธอมักใช้ Adobe Fresco บน iPad เพราะถูกใจที่มีแปรงให้เธอได้ลองใช้หลายแบบ
"แนวทางที่ Exceptional Minds ใช้กับนักศึกษาในกลุ่มอาการออทิสซึมนั้นแตกต่างจากที่อื่นๆ" Tim Daley ซึ่งเป็นคณบดีและผู้อำนวยการหลักสูตรการศึกษาของสถาบัน กล่าว "เราอยากสร้างโลกที่นักศึกษาในกลุ่มอาการนี้ได้รับการยอมรับในด้านทักษะความสามารถ แทนที่จะเป็นเรื่องของความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญ"
ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ศิษย์เก่าจากสถาบันแห่งนี้ได้เข้าทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง Marvel, Nickelodeon และ Cartoon Network และความสำเร็จดังกล่าวก็เป็นเครื่องยืนยันถึงแนวทางของสถานศึกษาแห่งนี้ โดยที่ Exceptional Minds นั้น นักศึกษามีอิสระและความยืดหยุ่นในการเรียนช้าหรือตามจังหวะของตัวเองโดยที่ยังคงต้องอยู่ในกรอบที่เคร่งครัดของหลักสูตร 3 ปี ซึ่งเป็นระเบียบวิธีที่ทำให้สถาบันแห่งนี้แตกต่างจากสถาบันที่ใช้แนวทางดั้งเดิมอย่างที่นักศึกษาอาจเคยเข้าเรียนมา และยังมีการให้ความเห็นเกี่ยวกับงานที่ทำมาอยู่ตลอดเวลาในแบบที่ช่วยให้ศิลปินสามารถตั้งความคาดหวังกับตัวเองและผลงานได้อย่างสมเหตุสมผล
Matthew Rohde เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ตั้งใจจะเข้าทำงานในสายวิชวลเอฟเฟ็กต์หรือโมชั่นกราฟิก "งาน VFX ก็เหมือนเกมพัซเซิล เพราะสนุกตรงที่ได้เห็นทุกอย่างประกอบเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในแบบที่คุณต้องการ" เขาอธิบาย "ถึงแม้บางครั้งงานนี้จะดูซับซ้อนไปบ้าง แต่ผมก็ยังรู้สึกชื่นใจทุกครั้งที่ได้ทำอะไรบางอย่างให้ออกมาดูดี"
Exceptional Minds ตั้งใจปรับหลักสูตรให้เหมาะกับความสนใจด้านศิลปะดิจิทัลของนักศึกษาแต่ละคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังปรับตามสิ่งที่คณาจารย์มองเห็นในวงการนี้ด้วย Tim Dailey ซึ่งเป็นคณบดีของ Exceptional Minds มาตั้งแต่ปี 2018 อธิบายว่าการปรับหลักสูตรตามความเหมาะสมลักษณะนี้ช่วยให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นมากขึ้น
อาจารย์ประจำสถาบันแห่งนี้บอกกับเราว่าพวกเขาเองก็ได้เรียนรู้มากพอๆ กับนักศึกษา "มีคำกล่าวที่เรามักหยิบยกขึ้นมาบ่อยๆ นั่นคือ "ถ้าคุณรู้จักใครสักคนที่มีอาการออทิสซึม ก็เท่ากับว่าคุณรู้จักเพียงใครสักคนที่มีอาการออทิสซึม" Jessica "Jess" Jerome ซึ่งเป็นนักแอนิเมชั่นมืออาชีพที่สอนที่ Exceptional Minds มาเกือบสิบปี อธิบาย "ฉันได้เรียนรู้จากนักศึกษาที่ฉันสอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเรียนรู้ในแบบเดียวกัน ฉันจึงต้องหาวิธีที่แตกต่างกันเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่ฉันสื่อออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร"
ที่สถาบันแห่งนี้ นักศึกษาได้เรียนรู้เครื่องมือและทักษะเฉพาะทางที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินแอนิเมชั่น โมชั่นกราฟิก วิชวลเอฟเฟ็กต์ และ 3D เมื่อจบการศึกษาไป และเข้าสู่โลกของการทำงานในฮอลลีวูดที่มีการแข่งขันสูง
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีทั้งวิชาความพร้อมสำหรับการทำงานและการฝึกสอนเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้กันเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน นักศึกษาได้ทำความรู้จักกับแอปในชุด Adobe Creative Suite บน Mac เช่น Photoshop, After Effects, Premiere และ Animate ตั้งแต่ในปีแรก และหลายๆ คนยังได้เรียนแอป Procreate บน iPad ซึ่งช่วยให้พวกเขามีอิสระในการสร้างสรรค์โดยไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในชั้นเรียน นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถติดตามงานที่ต้องทำในแต่ละวันด้วยแอปเพื่อการทำงานอย่าง Finch และ Zinnia ซึ่งมีให้ใช้บน iPhone และฝึกสมาธิของตัวเองโดยใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงของ Apple ที่มาพร้อมเครื่องอย่าง Background Sounds หรือ Guided Access
จุดเริ่มต้นที่ทำให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 อย่าง Matthew Rada หันเป็นมาเป็นศิลปินนั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2002 ที่เข้าได้ดูเรื่อง Spider-Man เป็นครั้งแรก "มีอยู่ฉากหนึ่งในเรื่อง Spider-Man ที่พระเอกกำลังวาดชุดของตัวเอง และตอนนั้นผมก็รู้สึกทึ่งกับวิธีที่เขาวาดกายวิภาคของมนุษย์" เขาอธิบาย "เรื่องนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมสร้างตัวละคร [ของตัวเอง] และทำให้ผมหลงเสน่ห์โลกของแอนิเมชั่นเข้าอย่างจัง"
นักศึกษาชื่นชอบการใช้ iPad ร่วมกับ Apple Pencil เป็นพิเศษในกระบวนการสร้างสรรค์งาน "เพราะช่วยลดช่องว่างระหว่างการวาดภาพจริงๆ กับศิลปะแบบดิจิทัล" Matthew Rohde ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ตั้งใจจะทำงานในสายวิชวลเอฟเฟ็กต์หรือโมชั่นดีไซน์ กล่าว "ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมชอบ และผมก็เคยลองใช้สไตลัสอื่นๆ แต่มันไม่ค่อยเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับเราสักเท่าไหร่"
"Apple Pencil ไวต่อแรงกดด้วย" Matthew Rada ซึ่งเป็นนักศึกษา Exceptional Minds ชั้นปีที่ 3 กล่าวเสริม "เวลาที่คุณเอียง Apple Pencil แบบนี้ มันก็จะทำงานเหมือนดินสอจริงๆ และสามารถแรเงาในแบบเดียวกับที่ดินสอทั่วไปทำได้"
นอกเหนือจากการฝึกสอนทางเทคนิคแล้ว นักศึกษายังผ่านการฝึกอบรมทางวิชาชีพ 3 ปี อย่างในด้าน Career Realities ที่เป็นการเสริมสร้างทักษะในการเขียนเรซูเม่ สร้างพอร์ตโฟลิโอ วางแผนเส้นทางในสายอาชีพ การสัมภาษณ์ และทักษะในชีวิตอื่นๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จกับการทำงานวงการนี้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการให้คำปรึกษาและการฝึกงานที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เริ่มสร้างความสัมพันธ์กับนายจ้าง ในขณะที่นายจ้างเองก็ได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการหรือสไตล์การทำงานของนักศึกษา
"ศิลปินของเราเรียนรู้การปรับวิธีพูดให้เฉียบคมเพื่อให้มีโอกาสที่ดีขึ้น และสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น" Jerome กล่าว "เราไม่ได้เปลี่ยนเรื่องราวของพวกเขา แต่เพียงแค่ทำให้คนอื่นมองเห็นเรื่องราวของพวกเขาได้"
สำหรับนักศึกษาอย่าง Ibarra, Rohde และ Rada นั่นหมายความว่าเมื่อพวกเขาจบการศึกษาจาก Exceptional Minds ไปแล้ว เป้าหมายอย่างการนำหนังสือการ์ตูนไปเสนอ DC หรือการทำงานเป็นนักออกแบบโมชั่นก็ไม่ใช่เพียงแค่ฝัน แต่เป็นสิ่งที่เป็นจริงได้
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้