Apple ต่อยอดความเป็นผู้นำด้านความเป็นส่วนตัวให้สูงขึ้นไปอีกขั้นใน iOS 15, iPadOS 15, macOS Monterey และ watchOS 8

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ได้เผยโฉมคุณสมบัติใหม่ๆ อันทรงประสิทธิภาพด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวใน iOS 15, iPadOS 15, macOS Monterey และ watchOS 8 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและจัดการการเข้าถึงข้อมูลได้ดีกว่าเดิม คุณสมบัติเหล่านี้คือนวัตกรรมล่าสุดที่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านความเป็นส่วนตัวของ Apple ตามที่บริษัทได้มุ่งมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด รวมถึงคอยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมผ่านคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความโปร่งใสในการติดตามของแอป และฉลากบ่งบอกข้อมูลด้านความเป็นส่วนตัวบน App Store

"ที่ Apple เราทำงานโดยให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรกมาตั้งแต่ต้น" Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว "เราคอยผลักดันตัวเองให้แต่ละปีมีการพัฒนาเทคโนโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลของตนเองได้ดีกว่าเดิม และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นก่อนจะแชร์ข้อมูลให้ใคร ในปีนี้ เราได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เข้ามาอีกเพื่อให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลเชิงลึกมากกว่าเดิม และควบคุมได้ละเอียดขึ้นไปอีก"

"การปกป้องความเป็นส่วนตัวเมล" ในแอปเมลจะหยุดยั้งไม่ให้ผู้ส่งใช้พิกเซลที่มองไม่เห็นมาเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ คุณสมบัติใหม่นี้ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ส่งทราบว่าผู้ใช้เปิดอีเมลเมื่อใด และปิดบังที่อยู่ IP ไว้เพื่อไม่ให้สามารถเชื่อมโยงกับกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ หรือใช้เพื่อระบุตำแหน่งของผู้ใช้

เราได้ใช้คุณสมบัติ "การป้องกันการติดตามอัจฉริยะ" มาหลายปีแล้วเพื่อปกป้องผู้ใช้ Safari ไม่ให้ถูกติดตามแบบไม่ต้องการ โดยใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์เพื่อหยุดตัวติดตามไว้ แต่ยังเปิดให้เว็บไซต์ทำงานได้ตามปกติ ปีนี้เราได้พัฒนาคุณสมบัติ "การป้องกันการติดตามอัจฉริยะ" ให้แน่นหนาขึ้นไปอีกขั้นโดยเพิ่มการซ่อนไม่ให้ตัวติดตามเห็นที่อยู่ IP ของผู้ใช้ ตัวติดตามจึงไม่สามารถใช้ที่อยู่ IP เป็นตัวระบุเฉพาะ เพื่อเชื่อมโยงกิจกรรมข้ามเว็บไซต์แล้วสร้างโปรไฟล์จากกิจกรรมเหล่านั้น

รายงานความเป็นส่วนตัวของแอปช่วยให้ผู้ใช้เห็นความถี่ที่แต่ละแอปใช้สิทธิ์อนุญาตที่เคยได้รับเพื่อเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพ กล้อง ไมโครโฟน และรายชื่อติดต่อในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา¹ ผู้ใช้สามารถพิจารณาความเหมาะสมของความถี่นี้ และหากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จัดการได้โดยไปที่แอปนั้นใน "การตั้งค่า" นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาได้อีกด้วยว่าข้อมูลของตนเองอาจกำลังถูกแชร์ให้กับใครอยู่ โดยดูที่ทุกโดเมนของบุคคลที่สามซึ่งแอปกำลังติดต่ออยู่

การรู้จำคำพูดบนอุปกรณ์ทำให้ระบบประมวลผลเสียงคำขอของผู้ใช้บน iPhone หรือ iPad ตั้งแต่เริ่มแรก และช่วยขจัดปัญหาเรื่องการบันทึกเสียงที่ไม่ต้องการ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับผู้ช่วยซึ่งรับคำสั่งผ่านเสียง Siri สามารถประมวลผลคำขอหลายประเภทได้เลยบนอุปกรณ์ ทำให้สามารถทำตามบางคำขอได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น การเปิดแอป การตั้งนาฬิกาจับเวลาและนาฬิกาปลุก การเปลี่ยนการตั้งค่า หรือการควบคุมเพลง

iCloud+ มีครบทุกอย่างที่ลูกค้าชื่นชอบเกี่ยวกับ iCloud เสริมด้วยคุณสมบัติระดับพรีเมียมใหม่ๆ เช่น iCloud Private Relay, ซ่อนอีเมลของฉัน และการรองรับวิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม²

Private Relay คือบริการใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวในโลกอินเทอร์เน็ตซึ่งมีมาพร้อมกับ iCloud โดยจะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อและเลือกดูเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อเลือกดูเนื้อหาโดยใช้ Safari คุณสมบัติ Private Relay จะช่วยเข้ารหัสทุกการเข้าชมที่ออกไปจากอุปกรณ์ของผู้ใช้เสมอ ทำให้ไม่มีบุคคลอื่นใดระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ที่เข้าชมสามารถเข้าถึงและอ่านข้อมูลนี้ได้ ไม่แม้กระทั่ง Apple หรือผู้ให้บริการเครือข่ายของผู้ใช้เองก็ตาม ระบบจะส่งต่อทุกคำขอทางอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้แยกออกจากกันเป็นสองรายการ รายการแรกจะมอบหมายที่อยู่ IP แบบไม่ระบุตัวตนให้ผู้ใช้ ซึ่งเทียบตำแหน่งให้ตามภูมิภาคของผู้ใช้ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ตั้งจริง ส่วนรายการที่สองจะถอดรหัสที่อยู่เว็บไซต์ซึ่งต้องการเข้าชม แล้วส่งผู้ใช้ให้ผ่านไปยังปลายทาง การแยกส่วนข้อมูลสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้ เนื่องจากจะไม่มีผู้ใดสามารถระบุได้ว่าผู้ใช้คือใครหรือเว็บไซต์ที่เข้าชมคือเว็บใด

เราได้ขยายความสามารถของ "ลงชื่อเข้าด้วย Apple" ให้มีคุณสมบัติซ่อนอีเมลของฉัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีที่อยู่อีเมลแบบสุ่มให้ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะส่งต่อเนื้อหาอีเมลที่ได้รับไปยังกล่องเข้าส่วนตัวของผู้ใช้ในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดเผยที่อยู่อีเมลส่วนตัว การตั้งค่า iCloud, เมล, ซ่อนอีเมลของฉัน ที่มีมาพร้อมกับ Safari ยังทำให้ผู้ใช้สร้างและลบที่อยู่อีเมลกี่ครั้งก็ได้ เมื่อใดก็ได้ตามต้องการ เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุมได้ว่ามีบุคคลใดบ้างที่สามารถติดต่อหาตนเองได้³

iCloud+ ได้เพิ่มความสามารถในตัวเรื่องการรองรับ วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกล้องในแอปบ้านได้หลายตัวกว่าเดิม และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลฟุตเทจวิดีโอการรักษาความปลอดภัยในบ้านที่เข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งจะไม่นับรวมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล คุณสมบัติ "วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย" ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่ากิจกรรมที่กล้องวงจรปิดของผู้ใช้ตรวจพบนั้นจะได้รับการวิเคราะห์และเข้ารหัสโดยอุปกรณ์ Apple ที่บ้าน ก่อนจะได้รับการจัดเก็บอย่างปลอดภัยใน iCloud

คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา

ในการเปิดตัวครั้งนี้ เรามีเครื่องมือใหม่ๆ อันทรงประสิทธิภาพที่ช่วยให้นักพัฒนาเพิ่มความสามารถให้แอปได้โดยไม่ละทิ้งความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

• การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งในปัจจุบันทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ตำแหน่งที่ตั้งของตนเองกับแอปเพียงครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องมอบสิทธิ์การเข้าถึงเพิ่มเติมหลังหมดเซสชั่นให้กับนักพัฒนา นักพัฒนาสามารถปรับแต่งปุ่มแชร์ตำแหน่งที่ตั้งในปัจจุบัน แล้วผสานรวมไว้ในแอปของตนเองได้เลย

• การเข้าถึงคลังรูปภาพแบบจำกัดที่ดียิ่งขึ้นทำให้นักพัฒนาสามารถเสนอฟังก์ชั่นการทำงานอันชาญฉลาด เช่น โฟลเดอร์รูปภาพล่าสุดของบางอัลบั้ม แม้ว่าผู้ใช้จะได้ให้สิทธิ์อนุญาตการเข้าถึงแบบจำกัดเท่านั้นก็ตาม

• การวางอย่างปลอดภัยทำให้นักพัฒนาสามารถเปิดให้ผู้ใช้วางข้อมูลจากแอปอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงสิ่งที่คัดลอกมา จนกว่าผู้ใช้จะได้วางสิ่งนั้นลงในแอปแล้ว เมื่อนักพัฒนาใช้การวางอย่างปลอดภัย ผู้ใช้จะสามารถวางข้อมูลได้อย่างสบายใจ เนื่องจากระบบจะไม่แสดงการแจ้งเตือนความโปร่งใสของกระดานวางข้อมูล