ฟีเจอร์ 18 มกราคม 2564

Mike Lang นักการศึกษาที่โดดเด่นของ Apple เริ่มวางแผนการเปลี่ยนแปลงในลาสเวกัส

ป้ายไฟนีออนไม่ใช่สิ่งเดียวที่ฉายแสงเจิดจรัสในลาสเวกัส Mike Lang ผู้สอนวิชาเทคโนโลยีที่ Laura Dearing Elementary School ใน Clark County School District ทางฝั่งตะวันออกของลาสเวกัสได้นำเสนอผลงานอันโดดเด่นของนักเรียนในฐานะผู้รับใช้สังคมและนักเคลื่อนไหวของชุมชน

"ผมหวังว่านักเรียนทุกคนจะมองตนเองเป็นประชากรโลกที่มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นจนประสบความสำเร็จ" Lang กล่าว ในเดือนนี้ Lang ได้เริ่มโครงการสามส่วนกับเด็กชั้นอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเชิดชูเกียรติคุณของ Dr. Martin Luther King Jr. รวมถึงปลูกฝังเรื่องหน้าที่พลเมือง "เป้าหมายสูงสุดคือ เราต้องการสร้างคนที่มีความรู้ มีแรงผลักดัน รักชาติอย่างแท้จริงและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น"

โครงการของ Lang ในส่วนแรกได้รับการออกแบบเพื่อแสดงให้เด็กๆ เห็นว่าพวกเขามีคุณค่า โดยใช้หนังสือ “You Matter” ของนักเขียนหนังสือเด็ก Christian Robinson เป็นจุดเริ่มต้นการทบทวนตนเอง "เด็กๆ ต้องมีความมั่นใจในตนเองในระดับหนึ่ง จึงจะเชื่อได้ว่ามุมมองของพวกเขาสำคัญ เรื่องราวของพวกเขาสำคัญ ความคิดเห็นสำคัญ และแนวคิดของพวกเขาสำคัญ" เขากล่าว "นักเรียนต้องเข้าใจว่าพวกเขามีพลังเพราะเป็นตัวของตัวเอง"

นักเรียนจะใช้ iPad เพื่อถ่ายและแก้ไขรูปภาพของตนเอง ครอบครัว และละแวกบ้าน จากนั้นก็นำมาเขียนเรื่องราวความสำคัญของสิ่งเหล่านั้นโดยใช้แอพเขียนโค้ด PBS KIDS ScratchJr บน iPad จากนั้น นักเรียนจะได้ค้นคว้าชีวประวัติและผลงานของ Dr. King จากหนังสือเรื่อง “I Am Martin Luther King Jr.” ของ Brad Meltzer แล้วนำมาเปรียบเทียบกับชีวติของตนเองโดยสร้างภาพถ่ายบุคคลแบบซ้อนทับของตนเองกับผู้นำด้านสิทธิพลเมือง ท้ายสุดในส่วน"I’m a Dreamer, Too" ของโครงการ Lang จะถามนักเรียนว่าพวกเขาจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเอื้อเฝื้อต่อเพื่อนบ้านอย่างไร โดยนักเรียนจะได้ทำสมุดงานแบบอินเทอร์แอ็คทีฟให้เสร็จบน Keynote สำหรับโครงการแต่ละส่วน และเขาจะรวบรวมความคิดเห็นของนักเรียนเป็นสมุดภาพตัดปะไอเดีย ซึ่งพวกเขาจะมีโอกาสแบ่งปันให้ผู้จัดการชุมชนและผู้ออกกฎหมายในลาสเวกัสปลายเทอมนี้

นักเรียนรุ่นเยาว์กำลังทำกิจกรรมในโครงการการเรียนรู้กับ Mike Lang บน iPad

Lang ได้สอนที่ Clark County School District มาเป็นเวลา 14 ปีแล้ว ก่อนที่เขาจะย้ายมาที่ลาสเวกัส ชาววอชิงตัน ดีซีผู้นี้สอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เมืองปาสคาโกลา รัฐมิสซูรี จากนั้นจึงข้ามน้ำข้ามทะเลไปสอนภาษาอังกฤษที่เมืองเล็กๆ ในไต้หวันชื่อเหมียวลี่ เขาได้ค้นพบที่นั่นว่าเทคโนโลยีสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ และทุกสิ่งเริ่มจาก iPod "ผมพยายามหาทางสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนที่พูดภาษาจีนกลางในแบบที่น่าสนใจ" Lang กล่าว

หลังจากซื้อ iPod ในไต้หวันเมื่อปี 2004 Lang ได้ใช้เพลงอเมริกัน ตั้งแต่เพลงร็อคคลาสสิกไปจนถึงฮิปฮอป เพื่อให้นักเรียนทำความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ เมื่อเขาย้ายมาที่ลาสเวกัส 3 ปีต่อมา เขาก็ได้ซื้อ iPod Shuffle และ Nano ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยใช้ Audacity ซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียงบน Mac เพื่อบันทึกบทเรียนส่งไปให้นักเรียน

"ผมเห็นแล้วว่าสามารถใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงและส่งข้อมูลให้กับนักเรียนได้ดีกว่าการอธิบายด้วยตนเอง" Lang กล่าว “หลังจากนั้นผมได้มาเป็นผู้ฝึกอบรมการเรียนรู้แบบดิจิตัล และเริ่มส่งเสริมให้เด็กทำสิ่งต่างๆ ด้วยอุปกรณ์เหล่านั้น ผมโชคดีที่ได้เติบโตไปพร้อมๆ กับวิวัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิตัลในห้องเรียน"

วันนี้ Lang มองตัวเองและครูทุกคนในฐานะสถาปนิก เขาเชื่อว่าทุกแผนการสอนต้องมีรูปแบบและฟังก์ชั่นที่เหมาะสม จึงจะประสบความสำเร็จในการนำไปใช้กับนักเรียนทุกคน ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการย้อนรำลึงถึงสถาปนิกชาวอเมริกัน Louis Sullivan และหนังสือของเขาในชื่อ “Kindergarten Chats” อันเป็นที่มาของวลี "form follows function" หรือประโยชน์ใช้สอยต้องมาก่อนรูปแบบนั่นเอง “คุณจะต้องมีแบบแผนที่เหมาะสมกับงาน” Lang กล่าว “การจะส่งเสริมให้ผู้ใช้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณและใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการใช้งานในรูปแบบที่คุณอาจไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ด้วยซ้ำเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความประณีตอย่างมากและต้องมาจากมุมมองของสถาปนิก”

ในบางครั้ง ปรัชญาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสอนของ Lang สามารถนำไปใช้กับวิธีที่นักเรียนมองเห็นตัวเองและการกำหนดเส้นทางของพวกเขาในโลกใบนี้ได้ด้วย เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ นักเรียนของเขาจะมีแบบแผนแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงชุมชนและรู้ว่าตนเองจะมีบทบาทอย่างไรบ้างในการสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้น

นอกจากโครงการของ Lang ที่กำลังดำเนินอยู่ ในวันนี้ยังเป็นการครบรอบการเปิดตัวกิจกรรมท้าทายครั้งที่สองของ Apple ในซีรี่ส์การเรียนรู้ชุด “การลงมือปฏิบัติเพื่อความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและความยุติธรรม”, “สร้างผลกระทบเชิงบวกในชุมชนของคุณ” และ “สร้างความท้าทายเพื่อการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งประกอบด้วยชุดคู่มือการสนทนาตามกรอบการเรียนรู้ที่เน้นความท้าทายและออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักการศึกษา ผู้นำชุมชน และคนทั่วไปสามารถพูดคุยกันได้อย่างรอบคอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียมกัน “พวกเราในฐานะนักการศึกษาต้องเดินเข้าห้องเรียนทุกวันด้วยความคิดที่ว่าหนึ่งในนักเรียนของเรา ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้” Lang กล่าว “อาจจะเป็น Martin Luther King Jr. อาจจะเป็น Bernice King อาจจะเป็น Coretta Scott King หรือใครสักคนที่อาจจะเป็นสัญญาณให้คนอื่นๆ ลุกขึ้นมาต่อสู้”

กิจกรรมท้าทายนี้จะส่งเสริมให้ผู้คนตอบแทน “ชุมชนอันเป็นที่รัก” ของตนซึ่ง Lang เชื่อว่าสิ่งนี้จะต้องเริ่มในโรงเรียน และเมื่อเช้านี้ก็มีประกาศจาก The King Center ของ Dr. Bernice A. King ลูกสาวคนเล็กคนที่สองของ Dr. King เพื่อสนับสนุนให้มีการเข้าร่วม

“มรดกตกทอดจาก Martin Luther King Jr. ในการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ มุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง และมุ่งมั่นในความเป็นธรรมนั้นเป็นมากกว่าเรื่องของเชื้อชาติ แต่ยังเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ความเห็นอกเห็นใจ และแนวคิดเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับเพื่อนมนุษย์ทุกคน” Lang กล่าว “ความหวังของผมคือการทำให้นักเรียนตระหนักว่าพื้นฐานความเป็นมนุษย์คือสิ่งที่เราต้องยึดมั่นอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่ในชั้นเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในโรงเรียน ในชุมชน ในเมือง ในประเทศ และในโลกใบนี้ด้วย