ข่าวประชาสัมพันธ์ 19 มกราคม 2561

Apple เร่งส่งเสริมการลงทุนและการสร้างงานในสหรัฐฯ

พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 3.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ผู้ผลิตแผ่นโลหะใช้เลื่อยตัดวัสดุที่จะใช้ในการต่อเติมศูนย์ข้อมูลในเมืองเรโน รัฐเนวาดา
คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย — วันนี้ Apple ประกาศแผนการลงทุนชุดใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและแรงงานอเมริกันตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ โดยแผนการลงทุนนี้จะเน้นไปที่ 3 ด้านสำคัญที่ Apple ช่วยสร้างงานได้มากที่สุด ได้แก่ การว่าจ้างจาก Apple โดยตรง การใช้จ่ายและลงทุนกับซัพพลายเออร์และผู้ผลิตของ Apple ภายในประเทศ และการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่นที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่ง Apple สร้างขึ้นโดยอาศัย iPhone และ App Store ในปัจจุบัน Apple มีส่วนในการสร้างและสนับสนุนการจ้างงานแล้วกว่า 2 ล้านตำแหน่งทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา และหวังว่าจะสามารถสร้างงานได้มากยิ่งขึ้นไปอีกจากแผนงานที่ประกาศในวันนี้
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในปัจจุบันแล้ว คาดว่ายอดเงินที่ Apple ใช้จ่ายกับซัพพลายเออร์และผู้ผลิตในประเทศในปี 2018 จะอยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับแผนการลงทุนชุดใหม่แล้ว ทำให้เม็ดเงินที่ Apple จะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้มีมูลค่าสูงถึงกว่า 3.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว โดยในจำนวนนี้ยังไม่รวมภาษีที่ Apple จ่ายอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนรายได้จากภาษีอากรที่มาจากค่าจ้างของพนักงานและผลิตภัณฑ์ Apple ที่จำหน่ายได้
เม็ดเงินที่ Apple อัดฉีดเข้าสู่ระบบโดยตรงประมาณ 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐมาจากรายจ่ายฝ่ายทุนในสหรัฐฯ ตามที่วางแผนไว้ รวมถึงการลงทุนในภาคการผลิตของบริษัทสัญชาติอเมริกัน และการจ่ายภาษีสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการนำกำไรที่เกิดขึ้นนอกประเทศกลับเข้าสู่ประเทศ
"Apple คือเรื่องราวความสำเร็จที่ไม่สามารถเกิดขึ้นที่อื่นได้เลยนอกจากในอเมริกา และเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สานต่อประวัติศาสตร์อันยาวนานของเราในการสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ" Tim Cook CEO ของ Apple กล่าว "เรามีความเชื่อมั่นในพลังแห่งความเฉลียวฉลาดของอเมริกันชนอย่างเต็มเปี่ยม เราจึงเน้นลงทุนในด้านที่เราสามารถส่งเสริมการสร้างงานและความพร้อมในการทำงานได้โดยตรง เราตระหนักดีถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการตอบแทนประเทศของเรา และผู้ที่มีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จในทุกวันนี้"
ปัจจุบัน Apple เป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และคาดว่าจะจ่ายภาษีจากการนำกำไรนอกประเทศกลับเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนเงินสูงถึงประมาณ 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายภาษีเมื่อไม่นานมานี้ และเงินจำนวนนี้น่าจะเป็นการจ่ายเงินภาษีก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว
ยอดเงินที่ Apple จ่ายให้กับซัพพลายเออร์และผู้ผลิตสหรัฐฯ ในปี 2018 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

การดำเนินงานของ Apple ในสหรัฐฯ กำลังเติบโต

Apple คาดว่าจะลงทุนในส่วนที่เป็นรายจ่ายฝ่ายทุนกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในสหรัฐฯ​ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า และสร้างงานใหม่กว่า 20,000 ตำแหน่งจากการว่าจ้างในแคมปัสเดิมและการเปิดแคมปัสใหม่ ปัจจุบัน Apple มีการจ้างงานแล้วถึง 84,000 ตำแหน่งใน 50 รัฐ
Apple มีแผนที่จะก่อสร้างแคมปัสใหม่ของบริษัทในพื้นที่แห่งใหม่สำหรับฝ่ายบริการช่วยเหลือลูกค้าทางเทคนิค และบริษัทจะประกาศให้ทราบเกี่ยวกับสถานที่ใหม่นี้อีกครั้งภายในปีนี้
Apple เพิ่มรายจ่ายฝ่ายทุนกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการลงทุนในศูนย์ข้อมูลทั่วทั้งสหรัฐฯ โดยในช่วงสิบปีที่ผ่านมา Apple ได้ลงทุนในศูนย์ข้อมูลและสถานที่ที่ใช้ร่วมกับบริษัทอื่นไปแล้วหลายพันล้านเหรียญสหรัฐใน 7 รัฐ เช่น นอร์ทแคโรไลนา โอเรกอน เนวาดา แอริโซนา รวมถึงโครงการในรัฐไอโอวาที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้
วันนี้ Apple ได้เริ่มก่อสร้างสถานประกอบการแห่งใหม่ในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองเรโน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถานประกอบการเดิมในเนวาดา
สถานประกอบการทั้งหมดของ Apple ในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ร้านค้าปลีก หรือศูนย์ข้อมูลล้วนใช้พลังงานหมุนเวียน 100% จากแหล่งต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก ซึ่ง Apple ผลิตขึ้นเองหรือซื้อจากโครงการในท้องถิ่น และแคมปัสแห่งใหม่ที่เพิ่งประกาศไปในวันนี้ก็จะใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดเช่นกัน

การลงทุนในซัพพลายเออร์และพันธมิตรผู้ผลิตในประเทศของ Apple

พนักงานในโรงงานแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัสที่ผลิตระบบเลเซอร์แบบ Vertical-cavity Surface-emitting (VCSEL) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Face ID, Animoji และคุณสมบัติอื่นๆ ของ iPhone X
สืบเนื่องจากความสำเร็จในเบื้องต้นของกองทุน Advanced Manufacturing Fund ที่ประกาศไปเมื่อปีก่อน Apple จึงตัดสินใจเพิ่มขนาดกองทุนจาก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กองทุนนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในกลุ่มผู้ผลิตสัญชาติอเมริกัน และช่วยให้บริษัทอื่นๆ สามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในสหรัฐฯ โดยกองทุนนี้ได้ให้เงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ของผู้ผลิตชั้นแนวหน้าในรัฐเค็นตักกีและพื้นที่ชนบทของรัฐเท็กซัสไปแล้วหลายโครงการ
Apple ร่วมงานกับซัพพลายเออร์สัญชาติอเมริกันทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกว่า 9,000 รายใน 50 รัฐ และผลิตภัณฑ์หลักของ Apple แต่ละชิ้นก็ล้วนใช้ชิ้นส่วนหรือวัสดุที่ผลิตขึ้นในสหรัฐฯ หรือจัดหาโดยซัพพลายเออร์ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ

เตรียมพร้อมนักเรียนสำหรับระบบเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่น

นักเรียนศึกษาการเขียนโค้ดด้วย Swift ซึ่งเป็นภาษาสำหรับการเขียนโค้ดแบบโอเพ่นซอร์สที่เข้าใจง่ายและทำงานเร็วสำหรับแอพที่ใช้บน iOS, macOS, watchOS และ tvOS
Apple ซึ่งมีส่วนร่วมในภาคการศึกษามายาวนานถึง 40 ปี ยังมีแผนที่จะผลักดันการดำเนินงานทั่วทั้งสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการศึกษาการเขียนโค้ด รวมถึงโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นในด้านวิทยาศาตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์ (STEAM) อีกด้วย
ระบบเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่น iOS ได้สร้างงานกว่า 1.6 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ และสร้างรายได้ถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่นักพัฒนาแอพชาวอเมริกันในปี 2017 นอกจากนี้ ในปัจจุบันทักษะด้านการเขียนโค้ดยังคงเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากการเปิดรับสมัครงานด้านการเขียนโปรแกรมที่ยังว่างอยู่กว่า 500,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ ยิ่งกว่านั้นสำนักสถิติแรงงานของสหรัฐฯ ยังคาดการณ์ไว้ด้วยว่าภายในปี 2020 จะมีตำแหน่งงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่าจำนวนผู้สมัครที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ถึง 1.4 ล้านตำแหน่ง1
Apple ได้สร้างภาษาสำหรับการเขียนโค้ดที่ทรงพลังแต่เรียนรู้ง่ายในชื่อ Swift เพื่อลดช่องว่างของทักษะในการเขียนโค้ด และช่วยเตรียมความพร้อมให้มีบุคลากรรองรับงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มมากขึ้นด้วย ยิ่งกว่านั้นยังได้สร้างแอพ Playgrounds และหลักสูตรการเรียนรู้ฟรีในชื่อ App Development with Swift สำหรับผู้สนใจทุกคน ซึ่งในปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษานำไปใช้ในโรงเรียน K-12, แคมป์ภาคฤดูร้อน และวิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศแล้วหลายล้านคน นอกจากนี้ยังมีนักเรียนและอาจารย์สนใจเข้าร่วมเรียนการเขียนโค้ดที่ Apple Retail Store กว่า 100,000 คน
Apple จะขยายโครงการริเริ่มเหล่านี้ และเพิ่มโครงการใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนครูอาจารย์และการฝึกอบรมครูอาจารย์ นอกจากนี้บริษัทยังได้เพิ่มเงินทุนสำหรับโครงการ ConnectED เพื่อให้นักเรียนในชุมชนที่ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะการเขียนโค้ดและได้รับประโยชน์ในด้านอื่นๆ จากเทคโนโลยีในห้องเรียน

ภาพการลงทุนของ Apple ในสหรัฐฯ

    1 จากข้อมูลของ code.org พบว่าในปัจจุบันมีการรับสมัครงานในด้านที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ถึง 503,338 ตำแหน่ง

    ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีข้อความในลักษณะที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตตามขอบเขตของความหมายที่กำหนดไว้ใน Private Securities Litigation Reform Act ปี 1995 ข้อความในลักษณะที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแผนการลงทุนและการขยายกิจการของ Apple ในอนาคต, ภาษี, แผนของ Apple ในการบริหารจัดการดุลเงินสดของบริษัท และการนำเงินสดนอกประเทศกลับเข้ามาในประเทศ ข้อความเหล่านี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน และผลการดำเนินงานจริงอาจแตกต่างไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ Apple สามารถดูได้ในรายงานที่ Apple ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ โดยจะอยู่ในหัวข้อ "Risk Factors" และ "Management’s Discussion and Analysis of Financial Condition and Results of Operations" ของรายงานรอบล่าสุดที่ Apple ยื่นใน Form 10-K และ Form 10-Q รวมถึงรายงานที่ยื่นหลังจากนั้น Apple ไม่มีหน้าที่ต้องปรับปรุงแก้ไขข้อความหรือข้อมูลใดๆ ที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตซึ่งให้ไว้ ณ วันที่ดังกล่าว

สื่อมวลชนสัมพันธ์

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com