ข่าวประชาสัมพันธ์ 27 ตุลาคม 2559

Apple เปิดตัวอัพเดทสำคัญสำหรับ
Final Cut Pro X

Magnetic Timeline ใหม่ อินเทอร์เฟซโฉมใหม่ และการใช้งานร่วมกับ Touch Bar บน MacBook Pro รุ่นใหม่

คูเปอร์ติโน, แคลิฟอร์เนีย ― วันที่ 27 ตุลาคม 2016 ―  Apple® ได้เปิดตัวอัพเดทสำคัญสำหรับแอพตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพอย่าง Final Cut Pro® X ที่ครั้งนี้มาพร้อมคุณสมบัติการตัดต่อวิดีโอสุดล้ำใหม่ๆ สำหรับ Magnetic Timeline รองรับ Touch Bar™ อันล้ำสมัยบน MacBook Pro® ใหม่ และอินเทอร์เฟซโฉมใหม่ พร้อมรองรับเวิร์กโฟลว์สำหรับการประมวลผลขอบเขตสีกว้างเต็มรูปแบบ ในส่วนของ Touch Bar นั้นเปลี่ยนการควบคุมมาเป็นแบบหน้าจอ Multi-Touch™ ที่ให้ความคล่องตัวและคุณภาพระดับ Retina® ซึ่งเข้ามาแทนที่แถวฟังก์ชั่นบนคีย์บอร์ดแบบเก่า และสามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับ Final Cut Pro X ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมแอพและปรับเปลี่ยนเครื่องมือต่างๆ ไปตามสิ่งที่ผู้ใช้ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ Apple ยังมีการอัพเดท Motion และ Compressor อีกด้วย
 
"นี่เป็นการอัพเดท Final Cut Pro X ครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การออกแบบใหม่ทั้งหมดเมื่อ 5 ปีก่อน" Susan Prescott รองประธานฝ่าย Apps Product Marketing ของ Apple กล่าว "คุณสมบัติในเวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซหน้าตาทันสมัย และคุณสมบัติใหม่ๆ อันทรงพลัง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์การทำงานที่เหนือชั้นกว่าแอพตัดต่อวิดีโอแบบแทร็ครุ่นก่อนๆ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้งานร่วมกับ Touch Bar อันล้ำสมัยยังช่วยให้นักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพโต้ตอบกับ Final Cut Pro X ในรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกด้วย"
 
Magnetic Timeline ใหม่ใน Final Cut Pro X นั้นช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจวิดีโอของตนได้ในทันทีตั้งแต่แรกเห็น ผ่านการจัดเรียงวิดีโอที่ปรับแต่งได้เอง และการใช้สีระบุคลิปเสียงตามประเภทหรือ "บทบาท" เช่น บทสนทนา เพลง และเอฟเฟ็กต์เป็นต้น การสร้าง และระบุบทบาททำได้ง่าย โดยการใช้สีที่แตกต่างกันระบุให้กับแต่ละบทบาท และนับเป็นครั้งแรกสำหรับซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ผู้ใช้จะสามารถลากเพื่อจัดเรียงเลย์เอาวิดีโอในแนวตั้งใหม่ หรือไฮไลต์บทบาทคลิปเสียงขณะตัดต่อได้ด้วย
 
การใช้งานร่วมกับ Touch Bar บน MacBook Pro ใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านการทำงานและการสร้างสรรค์ โดยสิ่งที่แสดงจะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับงานแต่ละประเภท รวมทั้งแสดงปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่ายได้ถูกที่และถูกเวลาด้วย โดยขณะที่ใช้ Final Cut Pro X นั้น Touch Bar จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สลับระหว่างการใช้เครื่องมือตัดต่อ การปรับระดับเสียง และการใช้คำสั่งที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดและการเล่นวิดีโอ อีกทั้งจะแสดงภาพรวมของไทม์ไลน์ทั้งหมดที่มีการเข้ารหัสสีในแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ผู้ใช้จึงสามารถนาวิเกตโปรเจคงานของตนได้โดยใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
 
ส่วนหน้าตาอินเทอร์เฟซที่ออกแบบใหม่จะปรับเลย์เอาต์ของหน้าจอ Final Cut Pro X ให้มีความซับซ้อนน้อยลง เพื่อให้ใช้พื้นที่หน้าจอได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ MacBook Pro ส่วนหน้าจอที่แบนราบและมีสีมืดจะช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสที่ไปที่คอนเทนต์ได้ดี หน้าจอที่ปรับแต่งได้เองเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับการจัดเรียงของหน้าต่างสำหรับงานแต่ละประเภท เช่น การจัดระเบียบ การตัดต่อ และการปรับแต่งสีวิดีโอ แม้ในการทำงานบนหลายหน้าจอพร้อมกัน การรองรับเวิร์กโฟลว์สำหรับการประมวลผลขอบเขตสีกว้างเต็มรูปแบบช่วยให้ผู้ใช้อิมพอร์ต ตัดต่อ และส่งมอบผลงานวิดีโอในมาตรฐานสี Rec. 601 และ Rec. 709 หรือมาตรฐานสี Rec. 2020 แบบขอบเขตสีกว้าง
คุณสมบัติอื่นๆ ใน Final Cut Pro 10.3 มีดังนี้
  • Flow Transition ช่วยให้การเปลี่ยนไปวิดีโอแต่ละตอนราบรื่นไม่มีสะดุด
  • Remove Attributes เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ลบหรือนำเอฟเฟ็กต์บางรายการกลับมาใช้ใหม่ในหลายๆ คลิป
  • ตัวสร้างและเอฟเฟ็กต์การซ้อนทับ Timecode จะช่วยให้ผู้ใช้ตัดต่อใน Timecode ต้นฉบับแบบหน้าจอใหญ่ได้
  • รองรับ ProRes MXF, Panasonic V-Log และการเอ็กซ์ปอร์ต AVC-Intra
  • เอาต์พุตวิดีโอโดยตรงผ่าน Thunderbolt 3 จะช่วยให้มีการติดตามผลวิดีโอคุณภาพสูงบนหน้าจอภายนอกโดยใช้สายเคเบิลเพียงเส้นเดียว


Motion 5.3 มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซใหม่ล้ำสมัย รองรับการประมวลผลขอบเขตสีกว้าง และการปรับปรุงตัวอักษร 3D ซึ่งจะพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานและความสมจริงของชื่อเรื่องในรูปแบบ 3D ฟังก์ชั่น Align To ใหม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เชื่อมต่อออพเจ็กต์ที่แยกกันได้อย่างง่ายดาย เพื่อก่อให้เกิดภาพเคลื่อนไหวขั้นสูง และ Touch Bar ก็ช่วยให้เรียกใช้งานเครื่องมือแบบอินเทอร์แอ็คทีฟมากมายได้ง่ายๆ บน MacBook Pro
 
Compressor 4.3 มาในรูปแบบสีมืดใหม่ที่จะเข้ากับ Final Cut Pro X และ Motion การปรับปรุงการสร้าง iTunes Store® Package ช่วยให้ผู้ใช้เบราส์ ตรวจสอบ และบีบอัดแพ็คเกจได้ง่าย ช่วยให้สามารถส่งวิดีโอไปยัง iTunes Store ได้เร็วขึ้น ทั้งยังถูกต้องตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อีกด้วย การรองรับช่วงสีที่กว้างจะเป็นเครื่องตอกย้ำความถูกต้องของสีต้นฉบับได้อย่างแม่นยำตลอดช่วง เมื่อมีการส่งมอบไฟล์ในมาตรฐานสีแบบปกติและแบบกว้าง ส่วนการรองรับ Touch Bar จะช่วยปรับการทำงานทั่วไปอย่างการสร้างแบทช์และการใส่เครื่องหมายใน MacBook Pro ให้ทำได้ง่ายขึ้น
 
ราคาและการวางจำหน่าย 
Final Cut Pro 10.3 สามารถอัพเดทได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และมีจำหน่ายในราคา 10,500 บาท บน Mac® App Store® สำหรับผู้ใช้งานใหม่ ส่วน Motion 5.3 และ Compressor 4.3 สามารถอัพเดทได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และมีจำหน่ายในราคา 1,750 บาท ต่อแอพบน Mac App Store สำหรับผู้ใช้งานใหม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/final-cut-pro/
 
Apple มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสำหรับส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัวเครื่อง Macintosh ในปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch สี่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple — iOS, OS X, watchOS และ tvOS — ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ Apple  และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลด้วยบริการที่ก้าวล้ำรวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple นับแสนคนทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อให้โลกเป็นโลกที่ดีกว่า
สื่อมวลชนสัมพันธ์:
จิราพร บุนนาค
Apple
jiraporn_boonnark@apple.com
(66) 816 224 017
 
Katrina Tran
Apple
katrina_tran@apple.com
(66) 6480-4793
 

    © 2016 Apple Inc. สงวนลิขสิทธิ์ Apple และ โลโก้ Apple, Final Cut Pro, Touch Bar, MacBook Pro, Retina, Multi-Touch, iTunes Store, Mac และ App Store เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง